ระเบียบวาระที่     เรื่องเสนอเพื่อพิจารณา

          วาระที่  ๕.๑  การขออนุมัติปริญญาบัตร

สรุปเรื่อง

 

          ด้วยคณะกรรมการวิชาการ  มหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ จังหวัดปทุมธานี  ได้พิจารณากลั่นกรองผลการเรียนของนักศึกษาภาคปกติ  และนักศึกษาภาคพิเศษ  ที่เรียนครบตามหลักสูตรและมีคุณสมบัติที่สำเร็จการศึกษา ระดับบัณฑิตศึกษา ระดับปริญญาตรี และระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต  ประจำปีการศึกษา  ๒๕๕๘  เมื่อวันที่   ตุลาคม  พ.ศ.  ๒๕๕๘  รวมจำนวนทั้งสิ้น  ๑๕๑  ราย  รายละเอียดดังนี้

-          ระดับปริญญาตรี  จำนวน ๓๐  ราย

หลักสูตรวิทยาศาสตรบัณฑิต               จำนวน         ราย

หลักสูตรศิลปศาสตรบัณฑิต                จำนวน         ราย

 หลักสูตรบริหารธุรกิจบัณฑิต               จำนวน     ๑๕   ราย

หลักสูตรนิติศาสตรบัณฑิต                 จำนวน         ราย

หลักสูตรเทคโนโลยีบัณฑิต                 จำนวน         ราย

หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรบัณฑิต       จำนวน         ราย

-             ระดับประกาศนียบัตรบัณฑิต  จำนวน  ๘๗  ราย

-          ระดับบัณฑิตศึกษา

-          ระดับปริญญาโท  จำนวน  ๒๔ ราย

หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต             แผน             จำนวน     ราย

หลักสูตรบริหารธุรกิจมหาบัณฑิต          แผน            จำนวน     ราย

                                              แผน            จำนวน   ๑๑ ราย

หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรมหาบัณฑิต  แผน            จำนวน      ราย

-          ระดับปริญญาเอก  จำนวน  ๑๐  ราย

หลักสูตรรัฐประศาสนศาสตรดุษฎีบัณฑิต  แบบ  ๒.๑        จำนวน     ราย     

                                               แบบ  ๑.๑        จำนวน     ราย

หลักสูตรปรัชญาดุษฎีบัณฑิต               แบบ  ๑.๑        จำนวน     ราย

 

                จึงเสนอสภาวิชาการพิจารณาอนุมัติผลตั้งแต่วันที่สำเร็จการศึกษา  เพื่อเสนอสภามหาวิทยาลัยต่อไป  รายละเอียดดังแนบ

เอกสารและระเบียบที่เกี่ยวข้อง

๑.  ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์  ในพระบรมราชูปถัมภ์  จังหวัดปทุมธานี  ว่าด้วยการจัดการระดับบัณฑิตศึกษา  พ.ศ.  ๒๕๔๙

๒.  ข้อบังคับมหาวิทยาลัยราชภัฏวไลยอลงกรณ์  ในพระบรมราชูปถัมภ์  จังหวัดปทุมธานี ว่าด้วยการจัดการศึกษาระดับอนุปริญญาและปริญญาตรี  พ.ศ.  ๒๕๕๑

 

 

 

 

 

 

ประเด็นที่เสนอ

          ๑.  เพื่อพิจารณา

          ๒.  สุดแต่จะเห็นสมควรเป็นประการใด

มติคณะกรรมการ

..............................................................................................................................................................................................................................................................................................................................................